“ธนาสิริ” อสังหาฯแกร่ง ยืนเป้าธุรกิจเติบโตไม่น้อยกว่า 15% และมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี หากปัจจัยบวกเรื่องดอกเบี้ยลง ผ่อนเกณฑ์ LTV หนุนลูกค้ากลับมาตัดสินใจซื้อโครงการ หลังชะลอมาตั้งแต่ปลายปี 67 บวกการเปิดโครงการใหม่ อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 แรงขับเคลื่อนรายได้ครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดแนวคิดรุกอสังหาฯภูเก็ต จับมือทุนอสังหาฯที่เชี่ยวชาญในตลาด ร่วมพัฒนาที่ดินผืนงาม 106 ไร่ คาดนำร่องเฟสแรกก่อน เจาะลูกค้าต่างชาติ ได้รับแรงหนุนจากสถาบันการเงิน ด้านผู้บริหาร อนาบูกิ กรุ๊ป มั่นใจศักยภาพธนาสิริ กับผลสำเร็จร่วมทุนสู่ปีที่ 5 มูลค่าเปิดโครงการใหม่เกือบครึ่งหมื่นล้านบาท ไฟแรงเตรียมผุดโครงการร่วมทุนแห่งที่ 6 ต่ออีก
ธนาสิริ กรุ๊ป บริษัทพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับคุณภาพ ที่สั่งสมประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯมา 40 ปีที่ผ่านมา ได้เติบโตบนความไว้วางใจสร้างสรรค์บ้าน ที่ตอบทุกความต้องการในทุกทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 38 โครงการคุณภาพ มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯได้ขยายกลุ่มลูกค้าในทุกระดับรายได้ เพื่อให้สอดคล้องกับทุกความต้องการอยู่อาศัย
โดยนายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวว่า เราเห็นเทรนด์ตลาดอสังหาฯชะลอตัวตั้งแต่ปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ยอดเยี่ยมชมโครงการ และตัวเลขการขออนุมัติสินเชื่อลดลง ยังต่อเนื่องมาถึงไตรมาสแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดอสังหาฯมีอาการคล้ายๆเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา แต่พอเห็นสัญญาณบวกที่ดีขึ้นเล็กน้อย จากมาตรการของรัฐบาลในเรื่องการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนองเหลือ 0.01% ในกลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท และการผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว ลูกค้าก็เริ่มเข้ามาดูโครงการมากขึ้น แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะแรงพอที่จะขับเคลื่อนให้ตลอดไตรมาส 2 ตลาด และครึ่งแรกของปี 68 จะดีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังตึงตัว และความไม่แน่นอนเรื่อง’ภาษีทรัมป์’ทำให้ต้องระมัดระวังในการลงทุน แต่โดยรวมอสังหาฯคงไม่ไปต่ำกว่านี้ เพราะมีเชิงบวกเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำ และ LTV ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ บวกกับผู้ประกอบการต่างๆ มีการออกเสนอโปรโมชั่นอย่างเต็มที่ ทั้่งส่วนลด เป็นต้น
ในส่วนการดำเนินธุรกิจของธนาสิริ เราคงต้องประเมินตลาดในไตรมาส 2 (เม.ย.-มิ.ย.) จะมีทิศทางอย่างไร เนื่องจากมีปัจจัยเสริมในเรื่องดอกเบี้ย และ มาตรการผ่อนเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ที่จะเริ่มในต้นเดือนพ.ค.นี้ จะมีส่วนสนับสนุนตลาดในไตรมาส 2 ได้มากน้อยแค่ไหน แต่หากเป็นไปในทิศทางที่ดี ผู้บริโภคเริ่มเข้ามาเยี่ยมชมโครงการมากขึ้น และตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยกับโครงการธนาสิริ และแรงส่งจากการเปิดโครงการใหม่ “อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 ” มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยม ราคาเริ่ม 18-30 ล้านบาท ซึ่งในเฟสแรกมีบ้านพร้อมโอนฯและสร้างเพิ่มได้อีกรวม 10 หลัง ทำให้มั่นใจว่าตลอดทั้งปี ธนาสิริ จะมีการเติบโตได้มากกว่า 15%
“ตอนนี้ เราเปิดเพียง 1 โครงการ ซึ่งเมื่อรวมกับปีที่ผ่านมาแล้ว เราเปิดโครงการมีมูลค่ามากถึง 2,500 ล้านบาท แต่หากภาพรวมตลาด กำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น และเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโต เป็นไปได้ที่ ธนาสิริ จะเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังได้ ภายใต้แบรนด์ ธนาสิริ พรีเว่ ที่เน้นเจาะกลุ่มชุมชน ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย”
‘อนาบูกิ กรุ๊ป’เชื่อมั่นปท.ไทย ขยายลงทุนอสังหาฯเพิ่ม
นายมาซาอากิ คากะวะ กรรมการบริษัท อนาบูกิ กรุ๊ป กล่าวว่าประเทศไทย เป็นฐานการลงทุนที่สำคัญในธุรกิจอสังหาฯของอนาบูกิ กรุ๊ป หลังจากที่บริษัทฯได้เริ่มมองหาโอกาสการลงทุนสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น ปัจจุบันรายได้ที่ให้กับอนาบูกิ กรุ๊ป ในประเทศไทยจะมีมากถึง 70% อินโดนิเซีย 10% เวียดนาม 10% และในอเมริกาอีก 10%
อนาบูกิ กรุ๊ป ก่อตั้งบริษัทเมื่อปีค.ศ. 1974 และดำเนินธุรกิจมาครบ 60 ปีเมื่อปี 2567ที่ผ่านมา โดยมีการแบ่งแยกเป็น 2 ธุรกิจหลักๆ คือ 1. ANABUKI KOSAN กรุ๊ป จะดำเนินธุรกิจในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ และ 2.ANABUKI HOUSING กรุ๊ป จะรับผิดเรื่อง Property Management ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะมีธุรกิจในเครือถึง 58 บริษัท มีพนักงานกว่า 11,000 คน และมีเป้าหมายใหญ่ๆ จะขยายการลงทุนมีบริษัท 200 แห่งในต่างประเทศภายในปี 2065
สำหรับเป้าหมายที่ อนาบูกิ กรุ๊ป เข้ามาลงทุนอสังหาฯในประเทศไทย โดยร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ปมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 ว่า เราได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของประเทศไทย ทั้งเชื่อมั่นในชื่อเสียง และความเชี่ยวชาญของธนาสิริ กรุ๊ป จึงได้ลงทุนร่วมกน โดยตลอดระยะเวลาความร่วมมือจนถึงปัจจุบัน บริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) จำกัด มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดร่วมกันเป็นปีที่ 5 แล้ว รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 4,900 ล้านบาท
“การขยายโอกาสในการลงทุนร่วมกับ ธนาสิริ กรุ๊ป ในกลุ่มลูกค้าระดับบนรายได้สูงนั้น มองว่า เป็นก้าวสำคัญในการเติบโต เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยใหครบทุกเซกเมนต์ โดยปีนี้เตรียมส่งโครงการใหม่ อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9 เพื่อตอบโอกาสการลงทุนกับกลุ่มลูกค้าระดับบนรายได้สูง โดยเฉพาะย่านกาญจนาภิเษก-พระราม 9 ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก แหล่งรวมที่อยู่อาศัยหรูหราเหนือระดับ ครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิต”
ไม่เกินQ3เห็นภาพชัดเจน โปรเจกต์หรู’ภูเก็ต’
นายสุทธิรักษ์ กล่าวถึงโอกาสเข้าไปขยายตลาดในหัวเมืองท่องเที่ยว อย่างเช่น ภูเก็ตว่า เรามีการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีความชัดเจน คาดภายในไตรมาส 3 ปี 68 จะสามารถบอกถึงความชัดเจนในเรื่องของผู้ร่วมลงทุน รูปแบบการพัฒนาโครงการ ซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาประมาณ 106 ไร่ เป็นที่ดินเดิมที่สะสมมา 39 ปี ใกล้กับหาดกมลา จ.ภูเก็ต คาดว่ากลุ่มลูกค้าคงจะเป็นต่างชาติ
“เราคงต้องให้พันธมิตรซึ่งมีความเชี่ยวชาญตลาดอสังหาฯในภูเก็ต เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการ คงไม่ใช่ทางธนาสิริ กรุ๊ป ซึ่งเราคงไม่ต้องใส่ทุนมากนัก เพราะมีที่ดิน อีกทั้ง สถาบันการเงิน ก็ให้ความสำคัญกับตลาดภูเก็ตไม่เหมือนกับตลาดในกรุงเทพฯ ในส่วนของทางอนาบูกิ นั้น ก็มีการลงไปสำรวจตลาดที่ภูเก็ตด้วยกัน แต่ในเบื้องต้น ทางอนาบูกิ คงจะเน้นตลาดบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลก่อน แต่ระยะข้างหน้าอาจจะมีการขยับการลงทุนไปภูเก็ต เพราะว่า อนาบูกิ ลงทุนยาว และวางยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนหลักในภูมิภาคเอเชีย”.
